‘ทองคำ’ สัญญาลักษณ์ที่แสดงออกถึงความฐานะ ความมั่งคลั่ง และมูลค่าทางการเงินแล้ว ยังมีความเชื่อมโยงกับการเสริมดวง ด้านโชคลาภและความเป็นสิริมงคลมาอย่างยาวนานในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก
จากสถิติในช่วง 7 ปี ย้อนหลังจนถึงปัจจุบัน พบว่า ราคาทองคำ มีการปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้นักลงทุนทั่วโลก หันมาให้ความสนใจลงทุนกับสมาคมค้าทองคำกันมากขึ้น มาเช็คดูกันว่าในช่วงนี้ ราศีไหนที่มีดวงรับทรัพย์ ลุ้นโชคเรื่องเงินทองกันบ้าง?
ราศีที่มีโชคลาภโดดเด่น ดวงปัง!! รับทรัพย์รัวๆ ในปี 2567
ราศีเมษ (13 เมษายน – 14 พฤษภาคม)
ดวงดีทั้งเรื่องการงาน การเงิน และโชคลาภ มีเกณฑ์รับทรัพย์ก้อนโต เงินทองไหลมาเทมา สิ่งที่หวังไว้มีเกณฑ์สมหวังทุกประการ เรียกได้ว่าเป็นปีทองของชาวราศีเมษก็ว่าได้
ราศีพฤษภ (15 พฤษภาคม – 14 มิถุนายน)
เป็นอีกหนึ่งราศีที่ดวงปังไม่แพ้กัน เงินทองไหลมาเทมา ธุรกิจรุ่งเรือง การงานราบรื่น มีความก้าวหน้า มีเกณฑ์ได้ลาภลอยจากมรดกหรือการลงทุน
ราศีกุมภ์ (13 กุมภาพันธ์ – 13 มีนาคม)
มีเกณฑ์ได้โชคลาภแบบไม่คาดฝัน มีดวงด้านการลุ้นโชค มีโอกาสได้เงินก้อนใหญ่จากทางไกล อาจมาจากมรดก หรือจากการลงทุน ธุรกิจเสริมอื่นๆ
ราศีเมถุน (15 มิถุนายน – 14 กรกฎาคม)
มีเกณฑ์ได้ลาภผลจากงานอดิเรก หรือมีรายรับเข้ามาจากการหารายได้เสริมช่องทางใหม่ ๆ การเสี่ยงโชค การลงทุนที่ประสบความสำเร็จ
ราศีธนู (16 ธันวาคม – 13 มกราคม)
มีเกณฑ์ได้เงินพิเศษจากผลงาน ความเสร็จในหน้าที่การงาน ได้รับโบนัส หรือเงินพิเศษเพิ่มเติม มีผู้ใหญ่ให้การอุปถัมภ์ ส่งผลดีต่อดวงด้านการเงิน
สำหรับชาวลัคนาราศีอื่นๆ หากท่านใดที่ต้องการ เสริมดวงรับทรัพย์ ดึงดูดโชคลาภ ในด้านการเงิน เราก็มีคำแนะนำมาฝากเช่นกัน ได้แก่
- หมั่นทำบุญกุศล สั่งสมคุณงามความดี ช่วยเหลือผู้อื่น
- สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ ส่งเสริมพลังบวก ช่วยเพิ่มแรงดึงดูดด้านดีๆ เข้าหา
- พกวัตถุมงคลเสริมดวง เช่น พระเครื่อง, กำลังไขมือเสริมดวง, วอลเปเปอร์มงคล เป็นต้น
- คิดบวกและมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ
หลักความเชื่อเรื่อง ‘ทองคำ กับ โชคลาภ’
ในหลากหลายวัฒนธรรมทั่วโลก ทองคำแสดงถึงสัญลักษณ์ของ ความมั่งคั่ง ร่ำรวย การมีอำนาจและบารมี รวมถึงความเจริญรุ่งเรือง ดังนั้นการมีทองคำไว้ในครอบครอง จะนำสิ่งเหล่านี้มาสู่ชีวิต
ในประเทศไทยเองก็เช่นกัน โดยมีคำกล่าวสุภาษิตไทยโบราณว่า ‘มีเงินนับเป็นน้อง มีทองนับเป็นพี่’ ซึ่งบ่งบอกความสำคัญและความแตกต่างระหว่างเงินกับทอง ปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินถือเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต สำหรับการซื้อหาแลกเปลี่ยนสิ่งของอุปโภคบริโภคต่างๆ ในชีวิตประจำวัน แต่ทองคำนั้นหายากและมีมูลค่าสูง เก็บรักษาไว้ได้นาน นิยมสะสมไว้เป็นสินทรัพย์ หรือมอบเป็นมรดกตกทอดสู่คนรุ่นหลัง
ในอีกแง่มุมหนึ่งคำกล่าวสุภาษิตนี้ยังตีความได้ว่า ‘เงินทองนั้นสำคัญ แต่ไม่ใช่สิ่งเดียวในชีวิต และไม่ควรยึดติดกับเงินทองจนเกินไป‘ สิ่งสำคัญคือใช้ชีวิตอย่างพอเหมาะพอควร มีสติและใช้จ่ายอย่างระมัดระวังอยู่เสมอ ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ความเชื่อเรื่องทองคำกับโชคลาภ และวัฒธรรมไทยมีดังนี้
การสวมใส่เครื่องประดับทองคำ
เชื่อกันว่าการสวมใส่เครื่องประดับทองคำ โดยเฉพาะสร้อยคอ ข้อมือ แหวน จะช่วยเสริมดวงชะตา ดึงดูดโชคลาภ และเงินทอง นอกจากนี้การสวมใส่เครื่องประดับทองคำอาจช่วยเสริมความมั่นใจ บุคลิกภาพ และความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้สวมใส่ได้อีกด้วย
การเก็บสะสมทองคำ
เชื่อกันว่าการเก็บทองคำไว้ในบ้าน เช่น ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ จะช่วยกักเก็บพลังงานด้านบวก เสริมสร้างความมั่งคั่ง เงินทองไหลมาเทมา และอีกนัยหนึ่งทองคำยังถือเป็นสินทรัพย์ที่นิยมใช้เป็นมรดกตกทอดรุ่นสู่รุ่น
การซื้อทองคำ
เชื่อกันว่าการซื้อทองคำ โดยเฉพาะในวันสำคัญ เช่น วันคล้ายวันเกิด วันตรุษจีน จะช่วยเสริมดวงด้านการเงินและโชคลาภ รวบไปถึงการมอบทองคำให้แก่คนที่คุณรักในวันสำคัญ แสดงถึงความปรารถนาดี และเป็นของขวัญที่มีคุณค่าทางจิตใจ
การบูชาด้วยทองคำ
การบูชาด้วยทองคำเปลว เช่น การปิดทอง ซึ่งเป็นประเพณีทางพุทธศาสนา แสดงถึงการสักการะบูชาพระพุทธรูป และเชื่อกันว่าการปิดทองแต่ละจุดบนองค์พระ เช่น พระเศียร (ศีรษะ) จะทำให้มีสิติปัญญาแหลมคม, พระอุทร (ท้อง) ทำให้ผู้นั้นไม่อดอยาก, พระหัตถ์ (มือ) ทำให้มีอำนาจ เป็นที่น่าเคารพยกย่อง เป็นต้น ทั้งนี้เป็นการแสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่าจะช่วยเสริมดวง นำพาโชคลาภมาสู่ผู้บูชา
เช็คดวงปังกันไปแล้ว เช็ค 5 ข้อ ที่ควรรู้ในการซื้อ-ขายทองคำ
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ออกมาให้คำแนะนำและเตือนภัยแก่ประชาชนให้พึงระวัง อย่าเพิ่งตัดสินใจซื้อ-ขายทองคำหากยังไม่ทราบสิ่งนี้
- ร้านทองต้องแสดงราคาขายทองคำแท่งและทองรูปพรรณของแต่ละวันชัดเจน มีการแสดงราคารับซื้อคืน และมีการแสดงค่ากำเหน็จ ซึ่งค่ากำเหน็จอาจจะไม่ได้ติดที่หน้าร้าน แต่ติดอยู่ในถาด
- มีป้ายบอกประเภทสินค้าชัดเจนว่าเป็นสร้อย แหวน กำไล
- มีการระบุชัดเจนว่า มีเปอร์เซ็นต์ทองเท่าไร เช่น 96.5% หรือ 99.99% เป็นต้น
- ที่เนื้อทองคำทุกชิ้นจะต้องมีโลโก้ของโรงงานผู้ผลิต
- ต้องระบุน้ำหนักของทองแต่ละชิ้นให้ชัดเจน
ซึ่งหากผู้บริโภคท่านใดพบเห็นว่า ร้านค้าทองคำแห่งใดไม่แสดงฉลากตามที่กำหนดให้ครบทุกประการ ขอความร่วมมือให้แจ้งมาที่สายด่วน สคบ.โทร. 1166 โดยร้านทองนั้นจะมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 50,000 บาท
ข้อมูลจาก : สมาคมค้าทองคำ และ สคบ.
มีปัจจัยอะไรบ้าง ที่ส่งผลต่อราคาทองคำ ?
1.ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง
โดยทั่วไปแล้ว ทองคำมักถูกซื้อ – ขายในรูปแบบสกุลเงินดอลลาร์ เมื่อค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง ทองคำจึงมีราคาถูกลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น จึงสร้างความน่าดึงดูดและเพิ่มกำลังในการซื้อทองคำจากนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
2.ราคาน้ำมันและเงินเฟ้อ
ราคาน้ำมันและราคาทองมักมีความสัมพันธ์กันในทิศทางเดียวกัน มักส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ นักลงทุนจึงมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย และทองคำจัดเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ เมื่อเงินเฟ้อดีดตัวสูงขึ้น ทองคำจึงมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราเงินเพิ่มที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง
3.ภาวะสงครามหรือความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์
ภาวะสงครามหรือความขัดแย้งในโลกล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความต้องการซื้อทองคำที่เพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากทองคำมีมูลค่าในตัวเอง จัดเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง สามารถแลกเปลี่ยนได้ทันที ซึ่งมีความแตกต่างจากเงินธนบัตรหรือหุ้นอื่นๆ เมื่อเกิดความไม่แน่นอน หรืออยู่ในภาวะฉุกเฉินจากความเสื่ยงใดๆ ก็ตาม นักลงทุนจึงจะซื้อทองคำมากขึ้น ส่งผลให้ทองคำมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
4.ช่วงเวลา
ฤดูกาลเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีส่วนลักดันเพิ่มความต้องการซื้อทองคำมากขึ้น และส่งผลให้ทองคำปรับราคาสูงขึ้นตามเหตุปัจจัยอุปสงค์/อุปทาน โดยเฉพาะเทศกาลสำคัญเช่น เทศกาลตรุษจีน (ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม) และ เทศกาลเทศกาลติวาลีของอินเดียในช่วงไตรมาส 4 ของทุกปี ช่วงเวลาดังกล่าวของทุกปี ทองคำจะมีการปรับราคาตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
5.ค่าเงินบาทในประเทศ
ค่าเงินบาทอ่อนมักเกิดจากเงินดอลลาร์แข็งค่า ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ส่งออก ธุรกิจท่องเที่ยว แต่ข้อเสียใหญ่ๆคือ ส่งผลให้ราคาสินค้าในประเทศสูงขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อผู้บริโภค รวมไปถึงอาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว โดยหากค่าเงินบาทอ่อนค่า ทองคำมักมีราคาสูงขึ้น ตรงกันข้ามหากวันใหนที่ค่าเงินบาทแข็งค่า ทองคำจะถูกลงทันที
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อความผันผวนของราคาทองคำทั้งในประเทศและทั่วโลกด้วยเช่นกัน ดังนั้นผู้ลงทุนควรติดตามข่าวสาร และวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ ร่วมด้วย ก่อนการตัดสินใจลงทุน
ที่มา: ทองคำราคา.com
Recent Comments